วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ความคิดเห็นของผม เรื่องเลื่อนเวลาเปิดเทอม

ช่วงนี้กระแสใน facebook twitter google+ แล้วเห็นว่า เรื่องเปลี่ยนเวลาเปิดเทอมนิมันดูเป็นประเด็นร้อนแรงเลยทีเดียว เอาเป็นว่าจะมาลองดูข้อดีข้อเสียกันดีกว่า

เวลาเดิม
ข้อดี
เด็กไม่ต้องทนร้อนเวลาเรียน อากาศกำลังดีเย็นสบาย
มหา'ลัยประหยัดค่าไฟไปเยอะ อากาศดีไม่เปลีองค่าไฟมาก
เด็กที่ช่วยพ่อแม่เก็บผลไม้ ก็ได้ช่วยพ่อแม่ทำงานนี้
เวลาไปทริป ค่าใช้จ่ายค่อนข้างถูกกว่าปกติ เพราะเป็น low season

ข้อเสีย
ตอนหน้าฝน ฝนตก น้ำก็ท่วมเดินทางไปเรียนก็ลำบากเป็นบ้า ตกทีไม่ได้ไปไหนกันเลยทีเดียว
การแลกเปลี่ยนนักเรียนกับต่างประเทศลำบาก เพราะเปิด-ปิดไม่ตรงชาวบ้านเค้า
เด็กมีเวลาไปแว๊นซ์ตอนปิดเทอม เพราะหน้าร้อนมันไม่มีอะไรทำ

เวลาใหม่
ข้อดี
วันพ่อวันแม่ตรงกับวันหยุดพอดีเดะ อยู่บ้านตอนนั้นหละดีเลย
แลกเปลี่ยนนักเรียนง่ายขึ้น เปิด-ปิดตรงชาวบ้านเค้าพอดี
รียูเนี่ยนกับเพื่อน ๆ ทีไปเรียนนอกได้ง่ายขึ้น เพื่อนมันปิดตรงกัน
ไม่ต้องเหนื่อนเดินทางฝ่าฝนไปเรียน ไม่ต้องมากังวลเรื่องภัยน้ำท่วมบ้าบอแล้ว
หน้าหนาวนอนชิวไปดิ ปิดเทอมอยู่บ้านสบาย ๆ
พ่อแม่ที่ทำการเกษตรสบายขึ้น ลูก ๆ อยู่ช่วยงานได้ เย้ ๆ
อาจจะลดจำนวนเด็กแว๊นซ์ลงไปก็ได้ ฝนตกมันจะยังแว๊นซ์กันอีกหรอ
อาจารย์ไม่ต้องลำบาก เพราะ inter กับภาคไทย มันเปิดกันคนละเวลาแล้ว
กีฬาเฟรชชี่ตอนเปิดมาฝนน่าจะตกน้อยลงแล้ว ไม่ต้องรับน้องกลางฝนแล้ว เฮ้
ปิดเทอมเที่ยวทะเลถูกลงเยอะ low Season!!!
ข้อเสีย
ถ้าพวกมัธยม ประถม มันไม่เปลี่ยนด้วยนะ ฉิบหาย
ตอนเริ่มเปลี่ยนนิ มันจะมีเด็กได้หยุด 6 เดือนเลยนะ นานเกิน
สำหรับคนจีบสาว คุณหมดโอกาสกางร่มไปส่งสาว ๆ แล้วหละ ฝนมันไม่ตกหละ!!!
year plan สำหรับหลาย ๆ ที่ พังกระจุย
การรับทำงาน คงงงมากขึ้นจากการที่มันเปลี่ยนเวลาเปิดซะ
สงกรานต์ยาว ๆ ได้หายไป ท่าทางช่วงนั้นอาจมีสอบได้
ทริปแพงไปนะจาน

ตอนนี้คิดออกแค่นี้แหะ คิดออกเพิ่มจะมาเพิ่มแล้วกัน

แต่จากที่เขียนมาคงเห็นแล้วหละ ว่าผมเห็นด้วยที่เปลี่ยนเวลาเปิด

วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ว่าง ๆ นึกอยากเขียน

วันนี้นั่งคิดเล่น ๆ ว่าทำไมมันก็เกิดเบื่อ ๆ ขึ้นมา หลังจากสัปดาห์ที่แล้วยังปวดหัวกับงานอยู่เลยได้พัก สบาย ๆ ดันเบื่อซะงั้น แต่จะว่าไปคนเรามันก็ยังงี้หละ มีงานอยากพัก เวลาพักอยากทำงาน ไม่พอดีเลยซักอย่าง ถ้าเราสามารถตั้งเป้าหมายบางอย่างในชีวิตได้ก็คงจะดี ว่าง ๆ นั่งทำ Vision Board ใหม่ดีกว่าแหะ น่าจะได้เรื่องได้ราวมกขึ้น กับชีวิตที่ไม่ได้วางแผนอนาคตไว้มากมาย มีแค่แผนระยะสั้น ๆ นิด ๆ หน่อย ๆ เอง เรื่องจริงก็มี Vision Board อันเก่าที่ทำตอนเรียน Innovative Thinking อยู่แหะ ตอนนี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ -_- ยังดีที่ยังมีรูปใน facebook อยู่ ถ้าลองทำใหม่อยากจะรู้เหมือนกันว่าความคิดตัวเองตอนปีที่แล้ว กับปีนี้มันแตกต่างหรือเหมือนกันขนาดไหน น่าสนุกดี
วันนี้ไปงานรับปริญญาพี่รหัสตอนอยู่ Mwit มาด้วยแหะ จบมาเก่งมากเลยทีเดียว ได้เหรียญทองมาคล้องคอ โห เท่สุด ๆ ไม่ได้เจอหน้านานมาก เจอก็ได้แปปเดียว หวังว่าคงได้เจออีกตอนราตรีศรีตรัง
พอหละ เวิ้นเว้อมาเยอะ

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พล่ามไร้สาระ กับ Arrietty

ได้มีโอกาสไปดู Arrietty มา ก็อยากจะพูดถึงมันซักหน่อย
จุดเด่น
เพลงเพราะ
ไร้ Climax
เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี
จุดด้อย
แอบน่าเบื่อไปบางช่วง

หลังจากดูจบได้มาคิดถึงประเด็นเรื่อง การแบ่งแยกเผ่าพันธุ์ การไม่เชื่อใจกัน คิดไปเองก่อนว่าไอ้นี้ตัวร้ายชัวร์ ทั้งที่ยังไม่ได้คุยกันเลยซักนิดเดียว

เห็นได้จากการที่พ่อของ Arrietty กลัวมนุษย์มาก ๆ และไม่ติดต่อกับมนุษย์เลย ถึงแม้จะไม่เคยสัมผัสมาก่อน ส่วนคนใช้ของบ้านโชนั้น ก็คิดแต่เพียงว่าเขาเป็นเพียงเผ่าพันธุ์ ๆ นึงที่มาขโมยของ แล้วก็หาทางกำจัด

และหลังจากไปดูหนังเสร็จ ได้เข้าไปใน pantip.com อ่านความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง Arrietty มีความเห็นนึงชอบมาก ๆ ว่าไว้ว่า


 ความคิดเห็นที่ 8  ติดต่อทีมงาน
ตอนที่ดู ก็ติดใจคำว่า ยืมโดยไม่คืนเหมือนกันครับ
แต่พอมาคิดกลับไป กลับมา จากปากของ เด็กผู้ชาย

มนุษย์เรา เองต่างหาก ที่สมมติตัวเองว่าเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในธรรมชาติ
ทั้งๆที่สิ่งมีชีวิตหลากหลาย ก็ใช้ร่วมกันอยู่โดยไม่ได้แอยอ้างเลย

หากมองในมุมธรรมชาติ มนุษย์เราเอง ก็หยิบมาโดยไม่ได้ขอเช่นกัน^^

แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 54 08:09:34

จากคุณ: himajin006  
เขียนเมื่อ: 1 ก.ค. 54 08:08:41 
ถูกใจ: นางาเสะจังITEMPทุเรียนกวน ป่วนรัก

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

ฝึกงาน Day7-9: On Your Marks Set ปังงงงงงง!!!

หลังสงกรานต์มาไม่ได้เขียนเลย สะสางกันซักหน่อย เดี๋ยวจะลืมว่าวันนี้ วันนั้นมีไรบ้าง

Day 7:
วันนี้เป็นวัน_____ มากไม่มีอะไรทำเท่าไหร่เลย เหมือนนั่งอ่านนั้นอ่านนี้เกี่ยวกับ Objective-C รอประชุมตอน 5 โมงเย็นชัด ๆ กว่าจะเลิกวันนี้ก็ทุ่มเลยทีเดียว อีกทั้งวันนี้เป็นวันที่มาสายใช้ได้เลยกว่าจะเข้าก็ 8 โมงครึ่งแล้ว แต่ก็เอาเถอะวันนี้มัน_____ จริง ๆ วันนีมีนเอา Image Mac OS X ของ VirtualBox มาให้ลงด้วย ลงกันรันได้หลายคน แต่เราดันไม่ได้แหะ จนประชุมเลย เซ็งกันไป กลับหอมาก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากลง Windows ใหม่ซะเลย Blue Screen บ่อยเหลือเกิน


Day 8:
วันนี้มาสายสุดตั้งแต่ฝึกงานมากว่าจะเข้างานนิ 09.45 ได้ เลยตั้งเป้าไว้ว่าจะไม่สายขนาดนี้อีก ทางที่ดีก็ไม่สายเลยดีกว่า วันนี้ก็ต่อมาจากเมื่อวาน คือมานั่งลง Mac OS X ใน VirtualBox ให้ได้ และแล้วก็ได้เริ่มลงใหม่หมดเลย นานมากยันบ่าย ตอนบ่ายพี่เค้าก็เรียกไป assign งานให้ ก็ให้ทำ Documents เรื่อง Objective-C หรือ วิธีใช้ Component ต่าง ๆ แล้วแต่เค้ามอบหมาย เราได้เรื่อง Objective-C ก็ไปนั่งอ่าน ๆ แล้วก็หมดไปวันนั้น แล้ววันนี้ก็ได้ไปพันธุ์ทิพย์ เอา nb ไปติดฟิล์มจอด้านเนื่องจากไม่ไหวแล้วจ้อง nb ทั้งวันแสงเข้าตาปวดหัวสุด ๆ ตอนไปก็เดินหาอยู่นานเลยทีเดียว เวลาผ่านไปพักใหญ่ ก็ได้ไปเจอร้านนึงอยู่ชั้น 4 ก็ถามราคาได้มาว่ามี 2 ราคา 250 กับ 390 แต่ด้านเท่ากัน เราเลือก 390 เพราะท่าทางมันจะอยู่กับเราไปนานเลย เลยเอาดีสุดเท่าที่มี เค้าใช้เวลาติดนานใช้ได้เลย แต่ออกมางานโคตรเนี้ยบ โคตรชอบ ไม่เสียดายตังเลย แล้วก็กลับมานั่งไร้สาระ หมดไปอีกวัน

Day 9:
วันนี้ก็มานั่งอ่าน pdf เรื่อง Objective-C อ่านไปเรื่อย ๆ เค้างาน 9 โมง เนื่องด้วยตื่นสายและมัวกินข้าวเช้าก่อน อ่านไปเรื่อย ๆๆๆๆ จนบ่ายซักประมาณ 4 โมงอ่านจบก็นั่งเล่นก่อน 5 โมงไปหาพี่ที่มอบหมายงานให้ เค้าก็ให้งานมาอีกหนึ่ง แต่ไม่รีบ คือไปอ่านไฟล์ xml มา แล้วก็ Code Objective-C ที่ทำตัวเหมือน Servlet แล้ววันนี้ก็กลับมาหอ จัดการเรื่อง Mac ใน VirtualBox ไม่เต็มจอ และแล้วก่อนที่จะมาเขียน Blog ก็ทำได้สำเร็จ สะใจสุด ๆ

วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554

ฝึกงาน Day 6: จาก Java สู่ Apple

กว่าจะได้เขียน ต้องนั่งปรับอารมณ์ซักพักใหญ่ ๆ เลย อยู่ดี ๆ ก็สั่งให้เขียน app Ipad ซะงั้น อย่างงงกันเลยทีเดียว
วันนี้ไปถึงที่ทำงานก็ไม่ได้ทำอะไรนั่งอ่าน Java Server Faces ไปเรื่อย ๆ กะว่าจะต่อยอด project ที่ทำ ๆ อยู่ขึ้นไปซักหน่อย อ่านไปซัก 10 โมงกว่า ๆ พี่ที่ฝึกงานก็เรียกไป ตอนแรกก็งง ๆ เรียกไปทำไม เข้าไปถึงห้องประชุมเค้าก็บอกมาให้เขียน app internet bank บน ipad โดยฟอร์มทีมจุฬาฯ ล้วนมา 6 คน มี ปั๊ป บอส มีน แบงค์ อีกคนนึงจำไม่ได้ และ ตัวเอง เค้าก็บอกว่าไม่มี mac ให้ใช้เลย ต้องลง vmware แล้วจะมี ram มาเพิ่มให้ แต่ไม่ได้ให้ไปเลย ต้องคืนหลังฝึกงานเสร็จ ตอนแรกก็เซ็ง ๆ เราก็อ่าน java มาซะเยอะ พอประชุมเสร็จก็ยังทำไรไม่ค่อยได้ เพราะตำรงตำราก็ไม่มี เลยนั่งอ่าน java ต่อไป ซักพักมีนก็มาเก็บข้อมูลเรื่อง ram แล้วก็แบ่งงานมีออกแบบ interface กับเขียน code เราก็เลือกเขียน code ไปเพราะดูท่าทางน่าสนุกดี แล้วก็นั่งอ่าน java เล่นไปเรื่อย ๆ หลับบ้าง แล้วก็กลับบ้านอย่างเร็ว เพราะว่างเหลือเกิน วันนี้เซ็ง ๆ เลยไปนั่งดูหนังซะ ตอนออกจากโรงเจอแต่ cp34 เต็มเลย เรารู้จักพี่คนนึงก็เข้าไปทักแล้วก็กลับหอพักผ่อน

จะว่าไปตอนนี้ก็ยังไม่ได้อ่าน Obj-C เลยแหะ แบบอารมณ์วันหยุดไม่อยากทำอะไรเท่าไหร่เลย ปวดตาอีกตั้งหาก เหอ ๆ จบหละ entry นี้

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

ฝึกงาน Day6: วันที่ Project เสร็จ และ น้ำประปาที่หายไป

ว่าถึงวันศุกร์ที่ลืมไปซักนิดว่า วันนั้นได้นั่งรถไฟฟ้าไปสุดสายด้วยแหะ ถึงวงเวียนใหญ่เลย นึกไรไม่รู้ แค่รู้สึกว่าวันนั้นวันศุกร์ และว่าง แล้วสถานีที่จะลง ทางออกโดนบัง เลยนั่งยาวไปเลย
@ KCS
ว่าถึงวันนี้ วันนี้เป็นัวนที่นั่งเพิ่ม code ให้สมบูรณ์ พร้อมกับเก็บ bug ตอนแรกกะว่าแค่ครึ่งเช้าคงเสร็จ แต่ทำไปทำมายันเย็นเลยทีเดียว bug ไรไม่รู้เยอะแยะ บาง bug ซัดไปเกือบ 2 ชั่วโมงเลย เหอ ๆ เซ็งกันไป แต่พอเสร็จแล้วก็ Happy แหะ รู้สึกได้ความรู้เรื่อง web app เพิ่มขึ้นมาเยอะเลย แล้วก็ได้รู้ว่าไม่ควรรัน project ตอนติดต่อกับ database ผ่าน ide อยู่ เพราะพอ disconnect ระหว่าง ide กับ database ปุ๊ป bug ได้หายไปแทบจะทันที 55+ งานก็เสร็จแล้วเค้าก็บอกว่าให้ศึกษา JSF ไว้ซะ ตอนแรกคิดว่ากลับมาจะอ่านนะ แต่ไม่ไหวแหะ หมดปัญญาเพ่งคอมไปเลย ตอนพิมพ์อยู่ก็มองแต่ keyboard หน้าจอไม่ได้มองกันเลย
@  My หอ
กลับมาหอปุ๊ป พบกับข่าวร้ายใหม่ปั๊ป น้ำโดนตัด ลืมจ่ายค่าหอ เซ็งเป็ด ต้องรอวันพรุ่งนี้กว่าจะจ่ายได้  แล้วถ้าน้องที่อยู่ห้องเดียวกันไปเรียนสายหน่อยนะ คงไม่ได้จ่ายกันพอดี เพราะเลิกงานมาเค้าก็กลับไปหละ ก่อนไปฝึกเค้าก็ยังไม่มา คาวนี้เครียดเลย จะเข้าห้องน้ำทำไงดีวะเนี่ยะ อย่างตอน 2 ทุ่มปวดฉี่ ต้องไปฉี่ถึง lotus 55+ คิดแล้วก็ตลกดีแหะ แล้วพรุ่งนี้เช้าอาบน้ำหละ ทำไงวะ นั่งคิดไปคิดมา ตอนแรกความดีก็เข้าข่ม ไปเติมนงเติมน้ำ จากข้างล่างที่เป็นตู้กด กดได้แค่ 7 ลิตร คิดหนัก จะอาบน้ำไงวะ นิดเดียวเอง ทันใดนั้นเอง ความชั่วร้ายได้เจ้าครอบงำ หาทางเปิดวาว์ลให้ได้ แล้วกะว่าตอนเข้าจะปิดให้ ขอให้ได้อาบน้ำก่อนแล้วกัน งั้นเน่าตาย คิดได้ดังนั้น ก็ไปรื้อเครื่องไม้เครื่องมือมาทันที ลองเอาประแจไปขัน ไม่ได้แหะ เพราะประแจใหญ่ไป เอาคีมไปหนีบหมุนดูไปได้แหะ ลองไปซักพักใหญ่ ๆ นึกได้ มีน้องห้องนึงกลับบ้านนี้หว่า นึกได้ดังนั้น จัดเลย เอาประแจไปขัน ตัวที่เอาไว้หมุนเปิดววาล์วมา 555555+ เสร็จกูแล้วหละ หละแล้วก็มีน้ำอาบน้ำตอนเช้า หลังจากนั้นอารมณ์ดีเลยมานั่งเขียน blog เก็บไว้เลย หวังว่าพรุ่งนี้จะ Happy Ending :D

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554

ฝึกงาน Day 5: MVC กว่าจะเข้าใจ Servlets+JSP

กว่าจะได้ up เพราะติดมานั่ง Code ให้มา งานก็สนุกดีนะ แต่เหนื่อยฉิบ ไม่เคยเขียนแม้กระทั่ง html ต้องมาเขียน web app ปวดหัวสุด ๆ มาว่ากันถึงเรื่องฝึกงานดีกว่า

วันนี้เป็นวันที่เลทอีกตามเคย แต่เฉย ๆ หละเพราะรู้สึกได้ว่า ตื่นเช้าแบบงัวเงีย กับตื่นสายมาหน่อย แต่เฟรชขึ้นอีกเยอะ ขอเอาแบบหลังดีกว่า วันนี้ก็ไป BTS ตามสูตร และเป็นวันที่โชคดีที่รอ BTS ไม่นานเลย ลงจาก BTS เพลินจิตก็เจอปิง มาถึงก็จะ 08.00 แล้วนะ แต่ก็ยังชวนกันไปกินข้าวอยู่ดี เนื่อง้วยถ้าไม่กินข้าวคงจะหงุดหงิดคิดอะไรไม่ออกกัน กินเสร็จเข้างานเกือบ 08.30 ก็ ok มาถึงก็เริ่มทำ porject เล็ก ๆ ที่เค้าให้เลย ทำไปทำมาชักงง ก็ทำกันไป แปป ๆ เที่ยงหละ กินข้าว ขึ้นมา โค้ดต่อทำไปซักพักใหญ่ ๆ เลยมีปัญหามากมายมหาศาล แบบคนยังไม่ค่อยเข้าใจ servlets jsp แค่รู้จักกันผิวเผิน เลยไปถามพี่เลี้ยง หลังจากซักถามแล้วก็เก็ทกันเลยทีเดียว แล้วยังได้รู้ว่าตัวเองอ่านหนังสือยังไม่พอจริง ๆ ข้ามนั้นช้ามนี้ Model View Controller (MVC) ก็ไม่รู้จัก จะบ้าตาย เลยรื้อเลยเอาใหม่หมด ก็นั่งทำไปซักพัก จนเลิกงาน กลับบ้าน โค้ดต่อ การ์ตงการ์ตูนที่บืมไว้ไม่ได้คืนกันเลย แบบไม่อยากไปไหนหละ ทำไปเรื่อย ๆ จนถึงตอนที่เขียน Blog มันก็ยังไม่เสร็จ
จากเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: อย่าเพิ่งลงมือ code เลยถ้าความรู้ยังไม่แน่นพอ
เรื่องจริงก็วางแผนไม่ดีด้วยแหะ แต่ไม่รู้จะเอาความรู้อะไรมาวางแผนอยู่ดี เขียนไปเรื่อย ๆ รู้เรื่องขึ้นเรื่อย ๆ หวังว่า JSF คงง่ายนะ

นอกประเด็นหน่อยนึง: ตนถามพี่เค้าถามแถมไปด้วยว่ามีโอกาสได้ออกไปนอกสถานที่บ้างมั้ย ได้คำตอบมาว่าขึ้นอยู่กับฝ่าย hr พี่เค้าไม่รู้เหมือนกัน ถ้าได้ดูอาจจะได้ไปพิบูล ต้องลุ้นกันต่อไป

สุดท้าย: จบฝึกงานไปนิ ท่าทางจะได้ไอเดีย senior project มาอื้อ : D Happy Happy